เรียกได้ว่าปิดจบอย่างสวยงาม สมความยิ่งใหญ่ และประสบความสำเร็จมากขึ้นทุกปี สำหรับคอนเสิร์ตที่พูดได้ว่า รักโลก ใจกลางเมืองแห่งแรก ในประเทศไทย ! สำหรับงาน “Melody Of Life 14” ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (13-15 ตุลาคม 2566) ด้วยจำนวนคนมหาศาลครอบคลุมทุกพื้นที่นับหมื่นๆ คนเลยทีเดียว และเพื่อเป็นการตอกย้ำความสร้างสรรค์ที่มีมากกว่าความสุข ซึ่งถือเป็นคอนเซ็ปต์หลักของการจัดงานนี้ในปีนี้ ทางผู้จัดงานอย่างบริษัท สไปร์ซซี่ ดิสก์ (SPICYDISC) ร่วมกับ ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ ได้เพิ่มความเข้มข้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Music for Greener Tomorrow ด้วยการจัดกิจกรรมชดเชยคาร์บอนที่เกิดจากการจัดงานให้เป็นศูนย์ โดยการจัดหาคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกมาชดเชยก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากกิจกรรมในการจัดอีเว้นท์หรือที่เรียกว่าคาร์บอนนิวทรัล (Carbon Neutral) และใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลในการจัดงานและการจัดให้มีการแยกขยะที่ถูกต้อง เป็นการตอกย้ำว่า เมโลดี้ ออฟไลฟ์ เป็นเทศกาลดนตรีที่รักโลกอีเว้นท์ดนตรีของไทยที่รับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Carbon Neutral Event
ภายในงานนอกจากคอนเสิร์ตจากศิลปินกว่า 74 วง แบ่งเป็น 4 เวทีแล้วยัง มีบูธกิจกรรมต่างๆ จากผู้สนับสนุนใจดีมาเปิดจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ รวมถึงกิจกรรมร่วมสนุกแลกของรางวัลติดไม้คิดมือกลับไปอีกด้วย นอกเหนือจากนั้นยังมี กิจกรรมสกรีนเสื้อ จาก Central Tham ที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์กของงานในทุกปี ชวนให้มาสกรีนเสื้อลายศิลปินสุดเท่ห์ โดยการซื้อเสื้อเปล่าในราคา 250 บาท และนำไปสกรีนโลโก้ศิลปินกว่า 54 วง ฟรีๆ และรอรับได้เลย นอกจากจะได้เสื้อสวยๆแล้ว รายได้จากการจำหน่ายเสื้อเปล่าทางโครงการ ได้มอบให้กับมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อม ในการสนับสนุนโครงการ Central Tham Love the Earth เพิ่มพื้นที่สีเขียว และฟื้นฟูป่าอีกด้วย บอกได้คำเดียวว่า บูธนี้ก็คึกคักกันตั้งแต่เปิดจนกระทั้งงานจบ กันไปเลย
และอีกหนึ่งส่วนที่ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ก็คือ Cheeze market ตลาดนัดเก๋ๆ ที่มีพ่อค้าแม่ค้าเด็กแนว มาออกร้านขายสินค้าทั้งมือหนึ่งมือสองเท่ห์ๆ ให้สายแฟ ได้ช็อปกันแบบ เย็นสบายเพราะปีนี้เราจัดกันในห้างเดินกันแบบเย็นฉ่ำ บรรยากาศปีนี้จึงคึกคักมากๆ เรียกได้ว่า ฉ่ำใจทุกพื้นที่กิจกรรมจริงๆ รวมถึง Food Market ที่มีร้านอาหารแสนอร่อยมาขายในงานให้ได้อิ่มท้องกันอีกด้วย
กลับมาที่บรรยากาศหลักของงานในส่วนของ คอนเสิร์ต ที่ทางเราได้คัดสรรวงดนตรีมาแบบว่า ครบทุกแนวดนตรี ทั้งอินดี้ ป็อบ ร็อก ! ก็ได้รับความสนใจจากนักฟังเพลงทุกวัย คึกคักและหนาแน่นทั้ง 4 เวที
เริ่มจากเวทีแรก INDY Stage ที่เปิดเวทีกันตั้งแต่วันศุกร์ ก็มีแฟนๆ เข้าไปรอชมศิลปินตั้งแต่เริ่มเซ็ทเครื่องจนเวลาผ่านไปสักพักก็สิ้นสุดการรอคอยเมื่อวงแรกของเวทีนี้เริ่มบรรเลงอินโทรขึ้นมากับวง CHADA BAND (ชฎา แบนด์) โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย วงดนตรีชนะเลิศจากเวทีการประกวด ‘ROBINSON LIFESTYLE SCHOOL MUSIC CONTEST 2023 ขึ้นมาเรียกเสียงเชียร์เป็นวงแรกก่อนจะโยนไม่ต่อให้กับ PRAESUN X PAIIINNTT, CIN CIN x Miteennn ขึ้นมาแจกความสดใสก่อนจะต่อเนื่องยาวๆ ไปกับ di age, CORNBOI, CURS, PUN, Def Jam Thailand เป็นการจบของคอนเสิร์ตในวันแรก วันถัดมาในเวทีนี้ออกสตาร์ทด้วยวง Indy Camp ขึ้นมามอบความสดใสกันตั้งแต่ช่วงบ่ายต่อด้วย 2 หนุ่ม Purplecat มาโชว์เสียงนุ่มๆ ให้ได้ฟังเพลินๆ ตามมาด้วย _less, LEMONY ยิ่งช่วงเย็นยิ่งมีผู้ชมเข้ามารอชมคอนเสิร์ตมากขึ้นไม่แพ้เวทีอื่นๆ เลย พร้อมต่อเนื่องความสนุกด้วย Newery, SOBBOY ที่ขนเพลงมาโชว์แบบจัดเต็มก่อนจะส่งต่อเวทีให้เพื่อนร่วมค่ายอย่าง Sherry อีก 1 วงจากค่าย สไปร์ซซี่ ดิสก์ ที่มาแรงมากๆ ในขณะนี้ ได้ขึ้นมาปล่อยของกันต่อกับเพลย์ลิสต์ชวนกระโดดไปยาวๆ จนถึงคิวของ Television Off ที่ทุกคนเอ็นจอยกันอย่างสุดๆ ในวันต่อมาเป็นคิวของ Wadfah มาเปิดเวทีพร้อมโชว์กับแบบยาวๆ ต่อเนื่องแบบนอนสต็อปกับ FrenchW, Purpeech, The Ghost Cat พี่ใหญ่ของเวทีนี้ที่ได้รับเสียงกรี๊ดกระหึ่มไม่แพ้น้องๆ เลย ก่อนจะต่อด้วย Babepoom x drg. ที่ไม่ได้มาคนเดียวเพราะได้ควงแขนเพื่อนอย่าง Sarah Salola มาร้องเพลงด้วยกัน ตามมาด้วย Moving and Cut, LUSS
ต่อมาที่ IDOL Stage เวทีที่ถูกเพิ่มมาในปีนี้ด้วยการชวน Idol TPOP มาร่วมโชว์ครั้งนี้ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กันโดยเริ่มกันตั้งแต่เที่ยงครึ่งกับวง The Glass Girls, Hatobito, เกรซ กาญจน์เกล้า ขึ้นโชว์เสียงร้องหวานๆ กระจายออร่าความสวยสะกดให้ทุกคนได้หยุดชมกันที่เวทีนี้ ตามมาด้วย NIKKO NIKKO, 4MIX เต้นกันมันจนเวทีโยกเลยทีเดียว ในวันต่อมาเป็นคิวของ Deadkat, Have a Nice Day, TerasuDanshi วงไอดอลที่นำเอาวัฒนธรรมญี่ปุ่น และเพลงญี่ปุ่นมาสู่แฟนๆ ชาวไทย ต่อด้วยศิลปินน้องใหม่จากค่าย Butter ค่ายน้องของ สไปร์ซซี่ ดิสก์ ที่ขนกันมาแบบยกค่ายมาเปิดตัวกันบนเวทีนี้ครั้งแรกนำทีมโดย Darran, JKA, Markpoom, Nonnie ซึ่งอีกไม่นานพวกเขาจะมีผลงานออกมาให้ฟังกันอย่างแน่นอน หลังจากนั้นเป็นคิวของ TattyXL x RHYMEKHAMHAENG สองแร็พเปอร์จากค่าย Bars Entertainment ขึ้นมาปล่อยของให้ทุกคนได้โยกตามกัน และปิดท้ายด้วย guncharlie จาก Kicks Records มาโชว์เสียงนุ่มๆ ให้ได้เคลิ้มกันไปเลย
ขยับมาอีกเวทีใกล้ๆ กันกับ Indoor Stage ที่ขนทัพศิลปินที่บอกได้เลยว่าดีจย์มาไว้อยู่ที่เวทีนี้และมีแฟนๆ มานั่งรอชมกันตั้งแต่ห้างเปิด และก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอยเมื่อพิธีกรขึ้นมากล่าวต้อนรับทุกคน โดยเริ่มเปิดเวทีด้วย Playground, LaONGFONG, TXRBO x NORTHY, Ice Paris, Loserpop, Win Sqweez Animal ที่ยังคงร้องเพลงตามกันได้เสียงดังเช่นเคย หลังจากนั้นเป็นคิวของ Landokmai ที่มาสะกดให้ทุกคนได้หลงไหลไปกับเพลงของพวกเขา ก่อนจะตามมาด้วย fellow fellow มาพร้อมกับเพลย์ลิสต์ที่ปลดล็อกสกินหูเคลือบทองกันเลย รวมถึงเพลงฮิตอย่าง ดาวหางฮัลเลย์ ที่ทุกคนร้องด้วยกันจนดังไปทั่วศูนย์การค้า ข้ามมาที่วันต่อมาเปิดเวทีด้วย The Rube วงดนตรีที่มีเอกลักษณ์ด้วยการนำความเป็นไทยมาใส่ในเพลงขึ้นมาทักทายทุกคนกันก่อนจะส่งต่อให้ Patrickananda, Nap a lean ที่มีคนใจดื้อร้องเพลงตามกันทั้งเพลงเสมือนเป็นนักร้องนำของวง พร้อมส่งต่อเวทีให้ 2days ago kids พี่ใหญ่ของวงการที่ยังคงฟิตเปรี้ย ทั้งร้องทั้งกระโดดกับแบบสุดตัว ตามมาด้วย Tinn, Better Weather, Yew, Freehand มาส่งท้ายเวทีนี้
และเวทีสุดท้ายกับ Outdoor Stage ที่แม้อากาศในช่วงกลางวันจะร้อนอบอ้าวแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรแฟนเพลงที่เข้ามารอชมคอนเสิร์ตได้เลย เราเปิดเวทีด้วยวงที่เรียกได้ว่าเป็นเจ้าของเพลงรักชื่อยาวแห่งยุคอย่าง No One Else แค่ขึ้นเมโลดี้มา แฟนเพลงกรี๊ดและยังกันร้องตามได้ทุกเพลง จากนั้นยังสร้างความพิเศษให้กับคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยการชวน น้องสาวร่วมค่าย ฟาง ธนันต์ธรญ์ ขึ้นมาแจกความสดใสในครั้งนี้ด้วย ต่อด้วย สาวน้อย ALLY ขึ้นมาทั้งร้อง ทั้งเต้นกันแบบเต็มที่ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงที่มารอชมได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนส่งต่อให้วง Mean, BNK48 และ ERAAA ขึ้นมาโชว์กันกว่า 30 ชีวิตบนเวที ก่อนจะเพิ่มดีกรีความสนุกด้วย The Parkinson มาพร้อมเซอร์ไพร์สพิเศษที่ไม่เคยโชว์ที่ไหนด้วยการชวน เกรซ กาญจน์เกล้า ขึ้นมาร้องด้วยกันบอกได้คำเดียวว่าดีมาก และต่อกันไปยาวๆ กับ Musketeers, MVL x Pok, Saran x Twopee x Smew x Not’Toy ในวันต่อมาเปิดเวทีด้วยความร้อนแรงกับ Slapkiss, Rooftop, getsunova, Wan Thanakrit ที่เหมือนมีคนปล่อยคิวเมื่อว่านร้องเพลงระยะปลอดภัย ที่มีท่อนเกี่ยวกับฝนก็มีสายฝนโปรยลงมาอย่างชุ่มฉ่ำให้คลายร้อนแต่คนดูก็ยังสู้ไม่ไปไหนยืนชมคอนเสิร์ตจนฝนหยุดซึ่งเป็นเวลาไม่นานก็เป็นคิวของ Lipta, Wanyai x Monik, Bowkylion, Slot Machine ที่ยังคงเป็นวงร็อกเอนเนอร์จี้เต็มตั้งแต่เพลงแรกจนเพลงสุดท้าย ซึ่งคนดูก็สู้ไม่ถอยร้องเพลงดังลั่นลานจัดงานกันเลยทีเดียว เป็นการปิดโชว์ของเวทีนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เป็นอีกหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอมทั้งได้รักโลกและสนุกไปกับคอนเสิร์ตจาก “Melody Of Life 14” Music for Greener Tomorrow เทศกาลดนตรี ที่รักโลกที่สุด และงานนี้จะเกิดขึ้นมาไม่ได้เลยหากไม่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสปอนเซอร์, พาร์ทเนอร์ ที่มาร่วมสรรค์สร้างให้งานสำเร็จไปได้วยดี รวมถึงแฟนๆ ทุกคนที่เดินทางมาร่วมงานกันอย่างมืดฟ้ามัวดินในทุกปีทางผู้จัดงานอย่างสไปร์ซซี่ ดิสก์ ขอบคุณทุกคนจากหัวใจ และสามารถไปชมภาพความสนุกของงาน Melody Of Life 14 (เมโลดี้ ออฟ ไลฟ์ 14) ได้ที่ www.facebook.com/MelodyOfLife.Festival, www.facebook.com/Spicydiscrecord หรือทาง www.facebook.com/spicyevent.official