นับตั้งแต่เปิดตัวในฐานะคัมภีร์แฟชั่นระดับโลกที่ทรงอิทธิพลต่อวิธีคิด วิถีชีวิต และแฟชั่นของคนยุคใหม่ โว้ก ประเทศไทย (VOGUE Thailand) ยังคงอัตลักษณ์ที่ผูกโยงกับความเป็นไทยมาตลอด พร้อมด้วยปณิธานที่ต้องการส่งเสริม และยกระดับงานศิลปหัตถกรรมของไทยโดยเฉพาะผ้าไทย ให้เป็นที่ยอมรับและนิยมทั้งในประเทศและในระดับสากล รวมทั้งสนับสนุนชุมชนต่าง ๆ จากหลากหลายจังหวัดในประเทศในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น และเปิดโอกาสให้ผลงานของชาวบ้านได้มีช่องทางในการเผยแพร่ไปสู่สายตาของเวทีโลก อันเป็นภารกิจที่ไม่สิ้นสุด และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมา โว้ก ประเทศไทย สนับสนุนศิลปหัตถกรรมไทยผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งการมีส่วนร่วมในการจัดทำ THAI TEXTILES TREND BOOK ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงของนักออกแบบ ชุมชน และผู้ประกอบอาชีพทุกสาขา, การมีส่วนร่วมในโครงการดอนกอยโมเดล ซึ่งมีเป้าหมายในการสนับสนุนและส่งเสริมภูมิปัญญาทอผ้าย้อมครามและย้อมสีธรรมชาติ ชุมชนดอนกอย จังหวัดสกลนคร ให้สามารถเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าในระยะยาว เพื่อให้ชุมชนมีรายได้และช่วยเหลือตนเองได้อย่างยั่งยืน, การนำผ้าไทยมาเป็นโจทย์ในการดีไซน์ของโครงการ Vogue Who’s on Next และการร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เปิด THAI TONE SHOP เชิญไทยดีไซเนอร์แบรนด์ชั้นนำสร้างสรรค์สินค้าคอลเลคชั่นพิเศษด้วยวัตถุดิบจากชุมชน เพื่อยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นให้กลายเป็นผลงานดีไซน์ร่วมสมัย ตลอดจนการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าไทยและงานฝีมือชุมชนอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายกิจกรรมและหลายโครงการที่ได้นำวิถีแฟชั่นเข้าไปผสมผสานกับเสน่ห์ความดั้งเดิมของหัตถกรรมไทย ภายใต้ความหวังที่อยากให้ภูมิปัญญาคราฟต์ไทยยังคงอยู่และถูกสานต่อโดยคนรุ่นใหม่ที่มองเห็นคุณค่า
กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหาร นิตยสารโว้ก ประเทศไทย กล่าวว่า “อุตสาหกรรมผ้าและสิ่งทอไทย นับเป็นรากเหง้าสำคัญของวงการแฟชั่นที่ โว้ก ประเทศไทย ให้ความสำคัญ จึงมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนชุมชนผ้าทอและหัตถกรรมไทยให้พัฒนาเป็นผลผลิตทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าบนเวทีระดับประเทศ ในขณะเดียวกันก็ย้อนกลับสู่การอุ้มชูรากฐานความเป็นไทยในรูปแบบที่มากกว่าคำว่าอนุรักษ์ ภายใต้ปณิธานอันแน่วแน่ที่ต้องการจะยกระดับผ้าไทยจากชุมชนสู่เวทีโลก”
ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีภายใต้ปณิธานนี้คือ Vogue Gala กาล่าดินเนอร์ที่จัดขึ้นมาเพื่อส่งเสริมผ้าไทยให้ไปสู่เวทีโลก ผ่านการนำงานผ้าและหัตถกรรมของช่างฝีมือจากชุมชนต่าง ๆ ในประเทศไทยมาเพิ่มมูลค่าด้วยการส่งต่อให้ดีไซเนอร์และแบรนด์ระดับโลกรังสรรค์ผลงานที่มีแค่ชิ้นเดียวในโลก ก่อนนำมาประมูลเพื่อนำรายได้ไปกลับไปสู่ชุมชน
สำหรับปีนี้นับเป็นปีที่ 10 แล้วที่นิตยสารโว้ก ประเทศไทย จัดงาน Vogue Gala ขึ้น โดยได้เชิญผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการแฟชั่น ดีไซเนอร์ และเหล่าเซเลบริตี้ มาดินเนอร์ ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพฯ พร้อมร่วมประมูลผลงานจากผ้าไทยและหัตถกรรมไทย ซึ่งประกอบไปด้วย เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ ออกแบบและผลิตขึ้นสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ จาก 12 แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Christian Louboutin, Coccinelle, Fendi casa, Fritz Hansen, Giuseppe Zanotti, Jimmy Choo, Karl Lagerfeld, Max Mara, MCM, Rene Caovilla, Roger Vivier และ Tod’s และอีกหนึ่งชิ้นพิเศษ กระเป๋าย่านลิเภาประดับเพชรที่ทรงออกแบบโดย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยความพิเศษของปีนี้คือ นอกจากผ้าไหมไทยยังมีการนำผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าบาติก และย่านลิเภา มาเป็นองค์ประกอบหลักในการสร้างสรรค์ผลงาน นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้เหล่าดีไซเนอร์และแบรนด์ต่าง ๆ ได้ทำงานร่วมกับชุมชนอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การออกแบบลายผ้าเพื่อให้ชาวบ้านย้อม มัดหมี่ และทอเป็นผืนผ้าลายตามแบบฉบับของแบรนด์ ไปจนถึงการทำงานร่วมกับศิลปินย้อมครามในการทำสีเก้าอี้หนังให้เกิดเป็นชิ้นงานใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน ภายในงานคับคั่งด้วยเหล่าเซเลบริตี้ อาทิ เบลล่า-ราณี แคมเปน, ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่, เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข, ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี, ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, สกาย-วงศ์รวี นทีธร, กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์, มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง, อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์, บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, เฟย์-พรปวีณ์ นีระสิงห์, ฟาง-ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์, ออม-กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงศ์, หลิงหลิง-ศิริลักษณ์ คอง ฯลฯ
ทั้งนี้ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา โว้ก ประเทศไทย ได้พิสูจน์แล้วว่า ไม่เพียงเป็นนิตยสารแฟชั่น แต่ยังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมผ้าไทยและภูมิปัญญาไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในแวดวงแฟชั่นโลกผ่านโครงการที่ทำร่วมกับชุมชนมาโดยตลอด ซึ่งจะยังคงเป็นสิ่งที่โว้กมุ่งมั่นเดินหน้าสนับสนุน และส่งเสริมชุมชนผ้าทอและหัตถกรรมไทย รวมถึงผลักดันดีไซเนอร์ไทยที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง อันจะเป็นส่วนสำคัญในการสืบสาน พัฒนา และต่อยอดภูมิปัญญาไทยให้คงอยู่ต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น